เป็นประจำทุกปีที่เมื่อหมดปีเก่าเริ่มต้นปีใหม่ เทรนด์ ไอเดียและสไตล์งานออกแบบตกแต่งจะเปลี่ยนแปลงไป สังเกตได้จากในทุก ๆ ปีจะมีการออกพาเลทสีสำหรับงานออกแบบมาให้ได้ชม หรือเทรนด์การออกแบบตกแต่งที่เปลี่ยนไป เช่น ปีนี้นิยมการตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นเรียบง่าย เน้นธรรมชาติ ปีหน้าอาจนิยมความเรียบง่ายแต่ดูนุ่มนวลลื่นไหลด้วยเส้นโค้งมากขึ้น

     ในงานดีไซน์ฟาซาดเองก็มีทั้งเทรนด์ที่เปลี่ยนไปและเทรนด์ที่ยังได้รับความนิยมจากสถาปนิกและนักออกแบบอยู่เช่นเคย ซึ่งจะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2024 วันนี้ DECAAR by SCG จึงได้มาสรุปรวมเทรนด์ดีไซน์ฟาซาดตลอดปี 2023 ที่จะยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่องไปตลอดจนถึงไอเดียการออกแบบฟาซาดในปีหน้าให้ได้ชมกัน 

     รวมถึงสรุปเทรนด์ฟาซาด 4 รูปแบบพร้อม New Coming Facade Materials 2024 วัสดุตกแต่งฟาซาดรุ่นใหม่จาก DECAAR by SCG ที่พร้อมเปิดตัวให้ได้นำไปใช้งานกันอย่างเป็นทางการในปีหน้า เพื่อเสริมไอเดียดีไซน์ฟาซาดในทุกสไตล์และความต้องการให้เป็นจริง ตอบโจทย์งานออกแบบ สวยงามและโดดเด่นได้มากขึ้นกว่าเดิม



เทรนด์ฟาซาดตกแต่งแบบ Industrial Style
    เทรนด์ตกแต่งแบบ loft หรือ Industrial Style ที่เน้นโชว์พื้นผิวหรือสัจจะของวัสดุให้เห็น โดยไร้ซึ่งการปรุงแต่งยังคงเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเสมอ เพราะโทนสีของวัสดุอย่าง เหล็ก คอนกรีต หินหรือไม้ ทำให้เกิดการผสมผสานที่เรียบเท่ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็มีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติรอบ ๆ ด้วย

    ในปี 2024 สิ่งที่จะเพิ่มเติมเข้ามาคือเน้นการสร้าง Contrast ระหว่างวัสดุมากขึ้น โดยเลือกใช้วัสดุที่มี Texture สีสันหรือแพทเทิร์นที่ตัดกันคมชัดมากขึ้น เช่น ใช้หินโทนเข้มที่มีแพทเทิร์นตื้นลึกชัดเจน ตัดกับฟาซาดไม้ที่เรียบง่ายในโทนน้ำตาลอ่อน การเพิ่มความ Contrast นี้จะช่วยสร้างจุดเด่นและจุดดึงดูดสายตาให้กับงานดีไซน์ฟาซาดได้มากขึ้นกว่าเดิม



เทรนด์ฟาซาดสะอาตตา เรียบง่ายแต่แฝงด้วยดีเทลละเอียดอ่อน
    เทรนด์ฟาซาดสไตล์เรียบง่าย รวมไปถึงเทรนด์ฟาซาดสีขาวที่สะอาดตายังคงเป็นเทรนด์ที่ถูกนำมาใช้งานเสมอมา 2-3 ปีแล้ว และน่าจะต่อเนื่องไปจนถึงปี 2024 ด้วย เพราะความเรียบง่ายเป็นดีไซน์ที่ทำให้ผู้ที่พบเห็นไม่เกิดความเบื่อเร็ว ดูสบายตา ส่งผลให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย ปลอดโปร่งตามไปด้วย

    แต่ในความเรียบง่ายของดีไซน์นั้น จะต้องมีดีเทลอันล้ำลึกหรือแพทเทิร์นที่ละเอียดละออซ่อนอยู่ในนั้น เช่น การใช้ฟาซาดสีขาวหรือสีพื้นเรียบ ๆ แต่มีดีเทลการเซาะร่องตื้นลึกที่เป็นระเบียบ ดูสะอาดตา เป็นการพัฒนาให้ดีไซน์รักษาความเรียบง่ายเอาไว้ แต่เพิ่มมิติให้คมชัด สร้างความน่าสนใจและประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับพื้นที่



เทรนด์ฟาซาดโค้ง เสริมความนุ่มละมุนกับพื้นที่ 
    ในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมารวมถึงปี 2023 นี้ด้วย งานดีไซน์ฟาซาดที่เราเห็นส่วนใหญ่จะเป็นดีไซน์ที่อยู่ในฟอร์มเส้นตรงเป็นส่วนใหญ่ เช่น ฟอร์มทรงสี่เหลี่ยมมีฟาซาดแพทเทิร์นเส้นแนวตั้งหรือแนวนอน ซึ่งดีไซน์นี้จะให้บรรยากาศของความเรียบ นิ่งและเป็นระเบียบ
    
    ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังของ 2023 เทรนด์ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นคือฟาซาดดีไซน์โค้งมน รวมไปถึงดีไซน์ Free Form ที่เป็นอิสระมากขึ้น ด้วยดีไซน์ของเส้นโค้งทำให้อาคารดูลื่นไหล นุ่มนวลและเป็นมิตรอยู่แล้ว การเพิ่มดีเทลตกแต่งฟาซาดโค้งเข้าไป เช่น การสร้างมิติจากระแนง หรือเพิ่ม Texture ให้พื้นผิวมีความสูงต่ำ เล่นแสงเงามากขึ้น จะช่วยให้ฟาซาดโค้งดูโดดเด่น น่าสนใจและดูลื่นไหลได้กว่าเดิม



เทรนด์ฟาซาดโทนธรรมชาติ
    แน่นอนว่าเทรนด์ดีไซน์ฟาซาดในสไตล์ Nature ถือเป็นเทรนด์ที่อยู่คู่กับงานดีไซน์มาตลอด เพราะสไตล์นี้ทำให้พื้นที่เกิดความผ่อนคลาย อบอุ่น น่าใช้งานและเหมาะกับอาคารทุกประเภท ตั้งแต่บ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน โครงการขนาดใหญ่หรือ Commercial Building ก็สามารถนำสไตล์ Nature นี้ไปใช้งานได้ทั้งหมด

    ซึ่งในปี 2024 นี้ สไตล์ Nature ทั้งหิน อิฐ และไม้ จะถูกเน้นให้มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ทั้งด้านโทนสีและลวดลายของวัสดุ ให้งานดีไซน์กลมกลืนไปกับธรรมชาติรอบ ๆ ตัวได้มากขึ้น และส่งต่อความอบอุ่นผ่อนคลายให้กับผู้ใช้งานได้มากขึ้น
    รวมทั้งวัสดุทดแทนเสมือนจริงที่ทนทานต่อสภาพอากาศและการใช้งานจะเข้ามามีบทบาทในสไตล์นี้มากขึ้นด้วย 



เทรนด์ฟาซาดสร้างการเชื่อมต่อจากภายในสู่ภายนอก
    ในปี 2024 งานดีไซน์ที่เคยถูกแบ่งระหว่างภายนอกและภายใน จะถูกเปลี่ยนเป็นงานดีไซน์ที่เบลอขอบเขต สามารถสร้างความกลมกลืน ให้พื้นที่มีความเชื่อมโยง และลื่นผ่านของดีไซน์จากภายในสู่ภายนอก เช่น การใช้วัสดุตกแต่งชนิดเดียวกันสร้างแพทเทิร์นเดียวกันเลื้อยจากภายในออกมาที่ฟาซาดภายนอก หรือการใช้วัสดุตกแต่งเดียวกัน ตกแต่งในหลาย ๆ จุดของอาคาร เช่น ตกแต่งในส่วนผนังเรื่อยไปจนถึงฝ้าเพดาน ทำให้เกิดการเปลี่ยนผ่านหรือ Transition Space ที่ลื่นไหลค่อยเป็นค่อยไปกว่าเดิม

    การดีไซน์ที่ช่วยเบลอพื้นที่ภายในและภายนอกให้กลายเป็นพื้นที่เดียวกันนี้ จะทำให้บรรยากาศที่สถาปนิกหรือนักออกแบบต้องการสื่อสารชัดเจนขึ้น สามารถรับรู้ความงามของงานดีไซน์ได้มากขึ้น และอาคารยังมีบรรยากาศและความงามที่ต่อเนื่องกันให้อบอวลทั่วทั้งพื้นที่ด้วย



เทรนด์ฟาซาดรักษ์โลก สวย คุ้มค่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
    นอกจากเทรนด์ดีไซน์ฟาซาดที่เน้นคาแรกเตอร์และความสวยงามแล้ว เทรนด์ที่จะยังคงอยู่และมีความนิยมมากขึ้นก็คือ ฟาซาดรักษ์โลก เช่น ผนังตกแต่ง KMEW Solido หรือ SCG Modeena Coff ที่วัสดุมีความทนทาน ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย มีการนำวัสดุรีไซเคิลเข้ามาเป็นส่วนประกอบในการผลิต หรือมีการจัดการพลังงานในการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น หมุนเวียนน้ำในการผลิต ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ฯลฯ เทรนด์ฟาซาดรักษ์โลกจึงเป็นเทรนด์ที่ช่วยให้ได้ฟาซาดสวย ๆ ในขณะเดียวกันก็ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปในตัวด้วย



4 เทรนด์วัสดุฟาซาดจาก DECAAR by SCG ที่พร้อมตอบโจทย์ทุก  ความต้องการในปี 2024
    ตลอดปี 2023 ที่ผ่านมา DECAAR by SCG  ได้สรุปเทรนด์ฟาซาดที่นิยม 4 รูปแบบ คือ Touch of Nature, Living with Pattern, Keep it Simple และ Elements of Light and Shadow ออกมาให้ทุกท่านได้รับชมกัน 

    ในแต่ละเทรนด์จะมีผนังและวัสดุตกแต่งหลายประเภทที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในงานดีไซน์ฟาซาดได้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่การนำไปดีไซน์เป็นฟาซาดอาคาร รวมไปถึงดีไซน์เป็นฝ้าเพดานและใช้ในงานปูพื้น ช่วยเสริมให้คาแรกเตอร์ของอาคารโดดเด่นและแสดงตัวตนออกมาได้อย่างชัดเจน

    และในปี 2024 ที่กำลังจะมาถึงนี้ แม้เทรนด์ดีไซน์ฟาซาดจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือต่อเนื่อง แต่สิ่งที่ยังคงอยู่คือเทรนด์วัสดุในการนำไปดีไซน์ ซึ่ง DECAAR by SCG ยังคงจัดแบ่งเทรนด์วัสดุฟาซาดออกเป็น 4 รูปแบบ และพร้อมตอบรับความต้องการในงานดีไซน์ของสถาปนิกที่สามารถสร้างสรรค์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยวัสดุใหม่ๆอีกมากมาย 



New Coming Facade Materials 2024
    นอกจากผนังตกแต่งและวัสดุตกแต่งที่มีอยู่แล้ว ในปี 2024 นี้ทาง DECAAR by SCG ยังคงพัฒนาและมองหาวัสดุใหม่ ๆ เข้ามาเสริม เพื่อรองรับความต้องการในการดีไซน์ฟาซาดที่หลากหลายมากขึ้น



     โดยในปีหน้า จะมีการเปิดตัวผนังตกแต่ง รุ่น เคมิว (KMEW) รุ่นใหม่ ที่มีลักษณะการติดตั้งแบบซ้อนเกล็ดเหลื่อมระหว่างแผ่น หรือ KMEW รุ่น Lap Wall เพิ่มเข้ามา ด้วยแพทเทิร์นที่เกิดขึ้น จะช่วยเปลี่ยนฟาซาดในเทรนด์ Touch of Nature ที่ดูสมจริงอยู่แล้วให้มีมิติมากขึ้นไปอีกขั้น



     รวมถึงวัสดุในเทรนด์อื่น ๆ เช่นกัน เช่น Modeena Curve ที่รองรับเทรนด์ฟาซาด หรือผนังโค้ง และ Modish ที่รองรับผนังที่ต้องการความมีมิติ ให้มีแพทเทิร์นที่คมชัดมากขึ้น จากเทรนด์ Living with Pattern



     Denze จากเทรนด์ Keep it Simple ที่จะช่วยเสริมให้ฟาซาดอาคารมีสีสันโดดเด่น ทนทานทุกสภาพอากาศได้มากกว่าเดิม รวมไปถึง Litewood จากเทรนด์ Elements of Light and Shadow ที่จะเข้ามาทำให้ดีไซน์ฟาซาดเล่นแสงเงาและเกิด Solid & Void ที่น่าสนใจกว่าเดิม



     ปี 2023 DECAAR by SCG ได้รวบรวม ส่งต่อเทรนด์ดีไซน์ฟาซาด 4รูปแบบให้กับสถาปนิกและนักออกแบบมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี และในปี 2024 ที่จะถึงนี้ DECAAR by SCG ก็พร้อมอัปเดตเทรนด์ใหม่ ๆ ให้ทุกท่านได้รู้ก่อนใคร โดยสามารถติดตามเทรนด์ฟาซาดที่น่าสนใจและการอัปเดตวัสดุตกแต่งใหม่ ๆ ได้ผ่านทางเฟสบุคเพจ DECAAR by SCG และเว็บไซต์ www.decaarbyscg.com